หลังจากที่ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความลุ้นระทึกว่า ผลตรวจการตั้งครรภ์ จะขึ้นเป็นบวกหรือไม่ ความตื่นเต้นปนกับความกังวล เต็มไปหมด ในเหล่าบรรดาว่าที่คุณแม่ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นข้อควรที่จะต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้น ในการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ อีกทั้งอาหารการกินต่าง ๆ ที่ควรจะทานเสริมเข้าไป
เพื่อให้สุขภาพของคุณแม่ พร้อมที่จะรองรับทารกในครรภ์ได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังควรหาความรู้ต่าง ๆ เพื่อที่จะ
ใช้สังเกตอาการไม่พึงประสงค์ อันอาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ในช่วงระยะแรก ๆ ได้ ซึ่งในวันนี้เรามีข้อมูล
สำคัญที่จะมาแนะนำให้กับว่าที่คุณแม่ในช่วงระยะการ ตั้งครรภ์1เดือน ถึงแม้ว่าท้องจะยังไม่โตและร่างกายยังไม่
เปลี่ยนแปลงมากสักเท่าไหร่ แต่การที่คุณแม่ทั้งหลายมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตั้งครรภ์ จะทำให้สามารถปฏิบัติตน
ในช่วงระยะเวลานั้นได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งมีความเข้าใจในพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการทางธรรมชาติ เพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์ได้เติบโตอย่างสมบูรณ์ต่อไปนั่นเอง
การเปลี่ยนแปลงของคุณแม่เมื่อครบ ตั้งครรภ์1เดือน
ในภาษาทางการแพทย์นั้น จะนับการตั้งครรภ์เป็นสัปดาห์ เช่น 1 เดือนคือ 4 สัปดาห์ โดยจะนับ หลังจากที่ประจำเดือนรอบสุดท้ายมาครั้งล่าสุด นั่นเอง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการเปลี่ยนแปลงของว่าที่คุณแม่เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ในช่วง 2 สัปดาห์แรกนั้น จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่เห็นได้อย่างชัดเจนมากนัก โดยบางคนอาจจะสังเกตเห็นเพียงแค่ว่าตนเอง มีอาการประจำเดือนขาด หรือมาไม่ตรงเวลาเท่านั้น ซึ่งเมื่อผ่านไป 2-3 เดือน จึงพบว่าตนเองได้ตั้งครรภ์ไปแล้ว โดยเรามีคำแนะนำ สำหรับคนที่มีคู่รักหรือมีครอบครัวแล้ว และไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์อย่างสม่ำเสมอ ควรซื้อที่ตรวจครรภ์จากร้านขายยาหรือเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เผื่อว่ามีเจ้าตัวน้อยอยู่ในท้องแล้วจะได้ดูแลอย่างถูกวิธี ซึ่งอาการของคุณแม่บางท่านนั้น อาจจะเหมือน หรือ แตกต่างกัน อย่างชัดเจนก็ได้ โดยมักจะมีความผิดปกติต่อร่างกายหลังจากที่เข้าสู่ช่วง 3-4 เดือนก็ได้ เช่น
- อาจพบภาวะเลือดออกคล้ายกับประจำเดือนแต่มีปริมาณที่น้อยกว่ามากออกมาเป็นจุดเล็ก ๆ ซึ่งในบางพื้นที่ของไทย เรียกเลือดชนิดนี้ว่าประจำเดือนล้างหน้าเด็ก ซึ่งเป็นภาวะที่บ่งบอกว่าคุณกำลังตั้งครรภ์นั่นเอง แต่ในคุณแม่บางรายก็อาจจะไม่พบภาวะเลือดไหลออกจากช่องคลอดแบบนี้ก็ได้ ซึ่งไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด
- คุณแม่บางท่านที่ ตั้งครรภ์ 1 เดือน อาการ บางอย่างจะมีความรู้สึกปวดบริเวณท้องน้อยหรือบริเวณอุ้งเชิงกรานโดยไม่พบสาเหตุบ่งชี้ก็เป็นได้
- ในระยะแรก ๆ ของคุณแม่บางรายที่ ตั้งครรภ์ 1 เดือน ท้องเสีย หรือมีอาการท้องผูกเกิดขึ้นได้ ซึ่งค่อนข้างเป็นปัญหาและเกิดความกังวลต่อว่าที่คุณแม่ได้ โดยวิธีแก้ไขคือเลือกทานอาหารที่มีกากใยสูงและดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ก็จะช่วยให้ภาวะเหล่านั้นบรรเทาลงไปได้
- อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถสังเกตได้อย่างง่ายดายนั่นก็คือคุณแม่จะมีอาการเจ็บบริเวณเต้านมหรือบริเวณหัวนมมากกว่าภาวะปกติ หรือจะเห็นได้ชัดว่าบริเวณฐานของหัวนมมีสีที่คล้ำมากกว่าเดิม ซึ่งหมายถึงเต้านมของคุณกำลังพัฒนาให้สามารถผลิตน้ำนมได้ในอนาคตนั่นเอง
- ในช่วง 3-4 สัปดาห์ คุณแม่บางท่านอาจจะมีอาการเหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลียมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายกำลังปรับตัวให้พร้อมสำหรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อน
ซึ่งอาการทั้งหมดที่กล่าวไปนั้น หากเกิดขึ้นหลังจากที่ประจำเดือนขาดไปแล้ว 4 สัปดาห์หรือ 1 เดือนนั่นเท่ากับว่าคุณกำลังเข้าข่ายเป็นว่าที่คุณแม่ในเร็ว ๆ นี้ แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุปไป เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจให้ทราบผลสรุปอย่างแน่ชัด หรือไม่ก็เข้าไปปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจครรภ์ให้เร็วที่สุดจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การพัฒนาการของเด็กในช่วงการ ตั้งครรภ์1เดือน แรก
ในช่วงเวลา 1-2 สัปดาห์แรก หลังจากที่ประจำเดือนขาดนั้น เป็นระยะเวลาที่เรียกว่าการปฏิสนธิอยู่ ซึ่งทารกจะมีขนาดเล็กมาก ๆ จนเครื่องมือทางการแพทย์อาจจะค้นหายากหรือไม่เจอเลยก็ได้ แต่พอการตั้งครรภ์ครบ 3 สัปดาห์ขึ้นไป คุณแม่สามารถไปปรึกษาคุณหมอ เพื่อขออัลตร้าซาวด์ดูลักษณะของทารกได้ ซึ่งในช่วงนี้ตัวอ่อนจะยังไม่เติบโตมากและมีขนาดเท่ากับเมล็ดพืช เท่านั้นเอง ก่อนที่จะมีการพัฒนาต่อไป ตามพัฒนาการในแต่ละเดือน เช่นมีการสร้างระบบสมองกระดูกสันหลัง หัวใจ ระบบทางเดินประสาท ซึ่งทุกอย่างนี้เป็นอวัยวะสำคัญที่ร่างกายจะต้องสร้างตั้งแต่ยังเป็นตัวอ่อนนั่นเอง
คุณแม่ ตั้งครรภ์ ควรทานอะไรเสริมดี
อาหารการกินเป็นสิ่งแรก ๆ ที่ว่าที่คุณแม่ทั้งหลายตั้งใจสรรหาของดีที่มีประโยชน์ต่อลูกในครรภ์มาดื่มกินอยู่เสมอ ด้วยความหวังที่ว่าจะทำให้เด็กที่อยู่ในครรภ์ มีความอุดมสมบูรณ์ และได้รับการพัฒนาในทุก ๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง จึงมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอาหาร ที่เหมาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเมื่อรับประทานแล้ว จะเกิดผลดีต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์อย่างแน่นอน โดยอาหารที่เราจะแนะนำให้กับว่าที่คุณแม่นั้นมีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
- อาหารที่มีโปรตีนสูง โดยส่วนมากสารอาหารชนิดนี้มักจะอยู่ในอาหารประเภทเนื้อ นม ไข่ ซึ่งสามารถหาทานได้ง่ายและราคาไม่แพงมากนัก
- อาหารที่มีธาตุเหล็กเสริมให้กับร่างกาย ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ตลอดจนทำให้ระบบเลือดของคุณแม่มีความสมบูรณ์ดี โดยสารอาหารประเภทนี้มักพบในเนื้อสัตว์ ตับ เครื่องในสัตว์และธัญพืชบางชนิด
- ผักและสมุนไพรต่าง ๆ ในคุณแม่บางรายอาจจะมีอาการเวียนหัวคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งเป็นอาการแพ้ท้องที่อาจจะเกิดขึ้นในคุณแม่บางท่านได้ โดยการรับประทานสมุนไพรบางชนิดเช่น ขิงหรือน้ำตะไคร้ก็จะช่วยบรรเทาอาการเหล่านั้นให้เบาบางลงได้
- ผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งจะช่วยให้คุณแม่ที่มีอาการท้องผูกมีอาการดีขึ้นมาได้ นอกจากนี้วิตามินต่าง ๆ ที่แฝงอยู่ในผลไม้ก็จะช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพที่แข็งแรงและส่งผลให้ลูกน้อยในครรภ์ได้รับสารอาหารดี ๆ เหล่านั้นตามไปด้วย
สรุป
ทั้งหมดนี้ คือสาระสำคัญ ที่หญิงตั้งครรภ์ในช่วง 1 เดือนควรศึกษาหาข้อมูลเอาไว้ เพราะจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ในการทราบความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ในระยะแรกของการ ตั้งครรภ์1เดือน ตลอดจน ทราบวิธีการสังเกตร่างกายของตนเอง ว่าเข้าข่ายกับการเป็นว่าที่คุณแม่หรือไม่ ตลอดจนแนะนำวิธีการทานอาหาร ที่จะทำให้คุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และ มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างดีที่สุดนั่นเอง Ufabet เว็บหลัก
https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/what_food_pregnant_do_not_eat
credit by : paraquor.com , avangelistdesign.com , bakrimusa.com ufabet